เมื่อฉัน(ต้อง)ไปงาน Agile Thailand ครั้งแรก

KakyKad
2 min readAug 4, 2019

--

สวัสดีค่ะ วันนี้กาดได้ไปงาน Agile Thailand ครั้งแรก และกึ่งๆโดนบังคับไป 5555 ปกติเป็นคนไม่ค่อยไปงาน event อะไรอยู่แล้ว วันนี้ไปร่วมในฐานะ Speaker ครั้งแรกของตัวเองด้วย มาประเดิมด้วย Session แรกที่กาดไปเข้าร่วมกันเลย

รูปภาพจาก FB : Karan Sivarat

Agile Tester Career Path

session นี้จะพูดถึงอาชีพ Tester ว่าเขาคือใคร และทำอะไรอยู่

Tester คือคนที่ทดสอบ Software หลังจาก Developer นั้นสร้างเสร็จ และคอยบอกว่าส่วนไหนที่เป็นบัคและไม่ถูกต้องตาม spec

และในปัจจุบันเราให้คุณค่าของอาชีพ Tester น้อยมาก คือให้เขาอยู่ phase สุดท้ายของวัฎจักรการพัฒนา Software เช่น เรื่องเงินเดือน เรื่องสกิล อีกทั้งส่วนใหญ่จะหนีจากการเขียน code มาเป็น tester แทนอีกด้วย

สิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นตัวที่ทำให้ความทะเยอทะยานของการเป็น tester นั้นลดลง

และทำไมต้องมี Tester ละ? ก็เพราะมุมมองของ Developer และ Tester นั้นมองต่างกัน (อีกอย่าง Developer ก็ต้องมั่นอยู่แล้วว่าของที่ตัวเองเขียนนั้นถูกต้องงง)

การมาของ Agile นั้นกระทบอะไรบ้าง?

อย่างแรกเลย กระทบกับ Tester จากที่ตอนแรกได้ทดสอบ software ตอนท้าย ได้มาทดสอบตั้งแต่แรกๆ ไม่ต้องทดสอบทีเดียวทั้งระบบ ทดสอบที่ละส่วนเล็กๆ (shorter feedback loop)

ใน Agile นั้น “เราไม่ได้อยากได้ทดสอบ เราอยากได้คุณภาพ”

คุณภาพไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่หลังการทดสอบ ถึงแม้จะทดสอบแล้วถูกต้อง แต่ไม่ได้เป็นไปตามต้องการของลูกค้าของก็ไม่มีคุณภาพ เช่น เจอ bug ก่อนที่จะเอาไปขึ้น production แบบนี้ก็เป็นการเพิ่มคุณภาพให้กับ software แล้ว

เราจะเพิ่มคุณค่าให้กับ Tester ได้ยังไง?

ภาพนี้ฝั่งซ้ายเป็น เทพ manual ฝั่งขวาเป็น auto นะ

เช่น (เทพ auto) อยากให้ tester นั้นสามารถวิเคราะห์จาก data ว่าเกิดข้อผิดพลาดจากตรงจุดไหนบ้าง เพื่อเอากลับไปแก้ไข (เทพ manual) อยากให้เข้าใจ business ของลูกค้าและสามารถเป็นตัวแทนของลูกค้าในการให้ requirement ได้

… End … Next Session

UX as a product owner

Session นี้จะเป็นการเล่าเรื่องของตัวเองในการเป็น Product Owner ว่าทำอะไรบ้างกับทีม

โดยเขาได้ให้ทีมเขาทำกิจกรรมต่างๆใน Agile เช่น สร้าง session share ความรู้กัน เพื่อสร้างการสื่อสารให้กันในทีม, ทำ Standup meeting เมื่อวานทำอะไร วันนี้ทำอะไร ติดปัญหาอะไร, Design paring คล้ายๆกับการ Pair programming และ Retrospective

สุดท้ายในการทำงานนั้นก็ต้องค่อยๆเรียนรู้ขึ้นไปทุกวัน แบบไหนเหมาะแบบไหนไม่เหมาะกับทีม

… End … Next Session

User story mapping

ใน session นี้ก็เล่าว่าตัวเองนำ User Story มาใช้งานยังไง โดยทางเขาใช้วิธีการ mapping และ List feature ของที่ลูกค้าต้องการออกมาทั้งหมดและนำไปเสนอ

User story mapping in delivery

  1. Map the big picture -> จะต้องรู้ว่าลูกค้าใช้ยังไง?

ก็คือทำการ List feature ที่ต้องการออกมาให้หมด โดยจะต้องกลับไปศึกษาก่อนว่า feature ไหนสำคัญที่สุดหรือต้องการที่สุดสำหรับลูกค้า

2. Slice out release strategy -> หั่น release ของงานว่าจะส่ง feature อะไรบ้าง

  • Identify top features
  • Rank easily
  • Understand the drives

โดยนำ user stories ทั้งหมดมาทำการ validated โดยลูกค้า ให้ลูกค้าเลือกว่าอันไหนที่เขาต้องการมากที่สุดและต้องการอันไหนน้อยที่สุด (highest customer value, as minimum as possible)

3. Slice out a learning strategy สิ่งที่เราจะทำคืออะไรและลูกค้าจะตอบรับหรือป่าว?

โดยหั่น feature ให้ user ลองใช้ โดยตัดของที่ยังไม่จำเป็นออกไปก่อน เช่น login, add product service

4. Slice out a development strategy -> หั่นงานของ development ในเชิง IT มีผลต่อความเสี่ยงเกี่ยวกับ product ของเราหรือไม่

… End …

ถือว่าการไป Event ครั้งแรกของตัวเองก็รู้สึกได้รับประสบการณ์ของคนอื่นๆ ที่เอามาแชร์กันว่าเขาทำอะไรยังไงบ้าง เป็นการเปิดโลกอีกโลกนึงเหมือนกันนะ

--

--

KakyKad
KakyKad

Written by KakyKad

เขียนไปเรื่อย

No responses yet